หนังสือรุ่นมหาลัยหนึ่งเล่ม หนังสือรุ่นม.ปลายสามเล่ม และโฟโต้บุ๊คภาพถ่ายโรงเรียนที่เพื่อนทำขึ้นมาเองอีกหนึ่งเล่ม
อยู่ๆ วันหนึ่งก็เกิดนึกครึ้มอยากเปิดดูขึ้นมา โดยเฉพาะเล่มที่เพื่อนทำขึ้นมาเอง เป็นรวมภาพถ่ายในลักษณะบรรยากาศ ฉาก วิว ฯลฯ
มันเป็นภาพของสิ่งที่เคยคงอยู่ ณ ช่วงเวลาหนึ่ง จารึกซี่งสิ่งที่จะไม่มีวันเกิดขึ้นซ้ำได้อีกเอาไว้ให้เป็นนิรันดร์
สิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกได้ในตอนก้าวกลับเข้าไปที่โรงเรียนครั้งแรกหลังเรียนจบ คือทุกสิ่งที่หลอมรวมเป็นสภาพแวดล้อมที่เราเคยสบายใจไม่ได้มีเหลืออยู่อีกแล้ว
สภาพแวดล้อมก่อกำเนิดขึ้นจากผู้คนและสถานที่ ที่จำกัดอยู่ในกรอบของเวลา แม้จะกลับไปที่โรงเรียนตอนนี้กับเพื่อนคนเดิม อาคารก็เปลี่ยนไป ครูอาจารย์ผัดเปลี่ยน เรา เพื่อน ครู ป้าแม่บ้าน หรือคนคนไหน ก็ไม่ใช่คนเดิมที่เคยเป็น ณ วัยในความทรงจำนั้นแล้ว Context ของเวลานั้นเปลี่ยนไป ทำให้ยังไงที่เดิมก็ไม่ใช่ที่เดิม
ไม่ว่าจะโรงเรียน มหาลัย ที่ทำงาน บ้าน จะที่ไหนก็ไม่ต่างกัน สิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้เพียงมีอยู่ในปัจจุบันนี้ บทเรียนที่คงที่ที่สุดตลอดชีวิตยี่สิบกว่าปี คือความคุ้นเคยและความคงเดิมจะถูกทำลายลงเสมอ
แต่ไม่ได้แปลว่าเป็นเรื่องแย่หรอกนะ
อีกสิ่งที่เราได้เรียนรู้ คือเราอาจสูญเสียบรรยากาศดั้งเดิมไป แต่เราไม่ได้สูญเสียคน พวกเขาเติบโตเปลี่ยนแปลงเหมือนกัน ได้คุยได้รู้จักในแง่มุมใหม่ๆ หรือแม้จะไม่ได้พบกันเท่าไร แต่พวกเขาเวียนกลับมาหากันในวันรับปริญญา
เราไม่ได้ติดค้างอะไร เคยคิดเรื่องนี้มาตั้งแต่เพิ่งจบม.ปลายเมื่อหลายปีก่อนแล้วนั่นแหละ เพียงแต่ว่าการเปิดดูโฟโต้บุ๊คทำให้เราย้อนนึก
ว่าเออ ตึกมันไม่ได้เป็นสีนี้แล้วเนอะ ห้องนี้ สาขานี้ก็ไม่มีแล้ว ชั้นล่างนี้ก็เห็นว่ารีโนเวทไปหมด ชุดพละที่เห็นกันในรูปยังไม่ใช่แบบเดิมเลย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ถูกตรึงไว้เป็นนิรันดร์ในหนังสือเล่มนี้
เราเป็นทีมทำหนังสือรุ่นของรุ่นเราตอนม.ปลาย เพื่อนเลยมาขอคำแนะนำในการทำงานกับโรงพิมพ์ตอนที่ตัดสินใจจะทำโฟโต้บุ๊คออกมาเป็นเล่ม
จะว่ายังไงก็แอบน่าเศร้า เพราะตั้งแต่หนังสือรุ่นม.ปลายเราก็ไม่ได้ทำหนังสือสิ่งพิมพ์อะไรอีกเลย (ไม่นับพวกโปสเตอร์ แบคดรอป ใบปลิว ที่เคยทำในฐานะกราฟิก เพราะมันไม่ใช่หนังสือ…) แม้จะเข้าชมรมวรรณศิลป์ แต่เพราะรับงานซ้อนมากเกินไป เลยไม่ได้รับงานทำไฟล์หนังสือหรือติดต่อโรงพิมพ์เลยสักนิด
จะเสียดายอะไรในชีวิตมหาลัยก็เรื่องนี้แหละ เมื่อปล่อยให้เวลาทับถมบาดแผล แม้กระทั่งเรื่องแย่ๆ ยังไม่แย่เท่าเรื่องที่เสียดายที่ไม่ได้ทำ
จำได้นะว่าตอนที่ทำโฟโต้บุ๊คส่งโรงพิมพ์ เพื่อนดูเหนื่อย ถึงแม้ว่ายอดเมื่อพิมพ์ขายจริงๆ จะน้อยกว่ายอดแซร์บนออนไลน์ และถึงแม้ว่าการสร้างหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาจะไม่ได้สุขสันต์ในทุกขั้นตอน แต่วันนี้ เมื่อเราเกิดอยากเปิดมันขึ้นมา ก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่า
“ดีแล้วที่มีหนังสือเล่มนี้เกิดขึ้นมา”
หวังว่าเจ้าตัวก็คงจะคิดเหมือนกัน